สมควรได้แชมป์มั้ย

สมควรได้แชมป์มั้ย

สมควรได้แชมป์มั้ย เปิด9สถิติสุดน่าทึ่งของลิเวอร์พูลในปี2022

สมควรได้แชมป์มั้ย ลิเวอร์พูล ตบเกียร์ห้ากระทืบคันเร่งเก็บแต้มไล่หลัง แมนฯ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก เหลือแค่สามแต้มแล้วหลังเปิด แอนฟิลด์ ถล่ม ลีดส์ แบบไม่ปราณี 6-0 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (23 ก.พ.)

เท่ากับว่าสองทีมของหัวตารางลงเล่น 26 นัดเท่ากันแล้ว แถม หงส์แดง เร่งยิงประตูแซงนำ เรือใบสีฟ้า ด้วยผลต่างลูกได้เสียเป็นสี่เม็ดได้สำเร็จ และจะมีเกมบุกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเดือนเม.ย.ซึ่งถ้าหากว่าทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำชัยได้ก็จะแซงนำเป็นจ่าฝูงแทนทันทีในกรณีที่ทั้งสองทีมกำชัยได้เรียบวุธเช่นกันก่อนถึงศึกบิ๊กแม็ตช์

สมควรได้แชมป์มั้ย

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 เป็นต้นมา ลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มที่ร้อนแรงได้อย่างน่าเกรงขามเป็นที่สุดและนี่คือ 9 สถิติที่ลูกทีมของยอดกุนซือชาวเมืองเบียร์สร้างขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ

1.นับตั้งแต่ปีใหม่ ลิเวอร์พูล กำชัยได้ 9 นัด เสมอ 2 นัด และไม่แพ้เลยโดยในจำนวนนี้เป็นการกำชัย 9 นัดติดต่อกันในทุกรายการ (6 นัดใน พรีเมียร์ลีก) นับตั้งแต่เสมอกับ อาร์เซน่อล 0-0 ในศึก คาราบาวคัพ รอบตัดเชือกนัดแรกช่วงต้นเดือนม.ค.

2.ผลต่างประตูในระหว่างนี้ของ ลิเวอร์พูล คือยิงได้ 34 ประตู และเสีย 6 ประตู พวกเขาเก็บคลีนชีตได้ 7 จาก 11 นัดหลัง และเสียประตูมากกว่า 1 ลูกแค่นัดเดียว แถมยิงได้มากกว่า 3 ลูกขึ้นไปหกนัด

3.ถึงขณะนี้ในช่วงปลายเดือนก.พ.ทีมของ คล็อปป์ มีดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก อยู่ในชาร์ตมากถึงสามรายทั้ง โม ซาลาห์ 19 ประตู , ดีโอโก้ โชต้า 12 ประตู และ ซาดิโอ มาเน่ 11 ประตู ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นอีกรายเดียวที่คลำเป้าได้สองหลัก (10 ประตู) แถม ซาลาห์ ยังนำหน้าเป็นจอมแอสซิสต์ของลีก 10 ประตูอีกด้วย

4.สถิติทั้งหมดนี้อุบัติขึ้นทั้งๆที่ ลิเวอร์พูล เสีย ซาลาห์ และ มาเน่ ไป 6 และ 7 นัดจากการผละไปรับใช้ชาติในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ โดย เซเนกัล ได้แชมป์ ขณะที่ อียิปต์ คว้าอันดับรองแชมป์

5.ลิเวอร์พูล เก็บแต้มได้มากกว่าทุกทีม (19 แต้ม) นับตั้งแต่ปีใหม่ และยิงได้ 20 ประตูจากเจ็ดเกมในลีกปี 2022 มากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก โดยมีแค่ อาร์เซน่อล ทีมเดียวที่เสียประตูน้อยกว่า (3ประตู) ในช่วงเวลาเดียวกันนี้

6.หลังจาก ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 2-2 เมื่อวันที่ 2 ม.ค.แมนฯ ซิตี้ นำเป็นจ่าฝูงอยู่ 11 แต้ม และมันขยับเป็น 14 แต้มในวันที่ 15 ม.ค.แถมเมื่อไม่นานมานี้เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ช่องว่างยังเป็น 12 แต้มด้วย แต่หลังจากกำชัยได้เรียบวุธ ลิเวอร์พูล ก็ลดช่องว่างลงเหลือ 3 แต้มได้แล้ว

7.ลิเวอร์พูล ยังมีโอกาสเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของอังกฤษที่สามารถเหมาคว้าแชมป์สี่รายการได้เนื่องจากพวกเขาจะดวลกับ นอริช ในรอบห้าถ้วย เอฟเอคัพ และเล่นกับ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ วันอาทิตย์นี้ พร้อมทั้งรอดวลกับ อินเตอร์ มิลาน ที่ แอนฟิลด์ ในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมนัดสองหลังกำชัยในเกมแรกได้ 2-0

8.ชัยชนะเหนือ ลีดส์ 6-0 ไม่เพียงเป็นชัยชนะด้วยสกอร์ที่ท่วมท้นที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้เท่านั้น แต่มันยังเป็นเกมใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่พวกเขามีค่าเฉลี่ยสมควรได้ประตูมากที่สุด และสมควรเสียประตูน้อยที่สุดเหนือกว่าทุกทีมอีกด้วย

9.ในเกมชนะ ลีดส์ ลิเวอร์พูล ได้โอกาสส่องยิง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 15 ครั้ง ขณะที่ ลีดส์ มีโอกาส 3 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง และ ลิเวอร์พูล ครองบอลได้ 63.7% ขณะที่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มีสถิติผ่านบอลมากกว่านักเตะ ลีดส์ ทุกรายทั้งๆที่เขาออกจากสนามในนาทีที่ 68

 

ท่านสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ เว็บสล็อตออนไลน์911

ขอขอบคุณข่าวสารดี ๆ จาก siamsport.co.th